วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2562

บันทึกการเรียน ครั้งที่ 15

บันทึกการเรียน ครั้งที่ 15


สำหรับการเรียนการสอนในวันนี้อาจารย์ได้ให้นำเสนอของเล่นเป็นรายกลุ่มซึ่งได้แก่
กลุ่มของเล่น เรื่องน้ำ


กลุ่มดิน หิน ทราย

กลุ่มเครื่องกล


กลุ่ม แสง


กลุ่มเสียง 
กลุ่มลม
ของเล่นที่เราประดิษฐ์ขึ้นมานี้ล้วนทำจากวัสดุที่เหลือใช้ทั้งสิ้นซึ่งทุกคนสามารถทำตามได้ง่ายๆและสิ่งที่ได้เรียนมาตลอด 1 เทอมได้ความรู้ทักษะในการสอนเด็กให้เข้าใจเนื้อหาที่สอดแทรกผ่านการทำกิจกรรมการทดลองถึงแม้การสอนวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กปฐมวัยจะเป็นเรื่องที่ยากแต่เราสามารถบูรณาการผ่านการเล่นและทำกิจกรรมได้

งานชิ้นสุดท้ายก่อนสอบปลายภาค
คำศัพท์


                                                                activities      กิจกรรม
                                                                integration    บูรณาการ
                                                               science            วิทยาศาสตร์
                                                              Early childhood  เด็กปฐมวัย
                                                              artificial        ประดิษฐ์

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2562

วันที่ 8 เดือน พฤศจิกายน 2562บันทึกการเรียนครั้ง ที่ 14



บันทึกการเรียนครั้ง ที่ 14
การเรียนการสอนในวันนี้อาจารย์ได้ให้นำเสนอของเล่นเดี่ยวของแต่ละคนขอยกตัวอย่างมานะคะ

ของเล่นหมวดแระเภทเครื่องกล 

ของเล่นหมวดแสง
ชื่อของเล่น คือ แว่นขยาย 3 มิติ

ของเล่นประเภทเสียง

ของเล่นหมวด ดิน หิน ทราย
ชื่อของเล่น เกม xo

ของเล่นหมดเครื่องกล
สำหรับการเรียนในวันนี้ความรู้ที่ได้คือ ทักษะในการทำของเล่นที่จะเสริมทักษะการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยเช่น ถ้าเป็นหมวด ดิน หิน ทราย เด็กก็จะได้เรียนรู้วิทยาสาสตร์จากลักษณะของเล่นที่ธรรมชาติสร้างหิน เอง นั้นได้แก่ ดิน หิน ทราย ให้เด็กได้สัมผัสถึงพื้นผิวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นต้น

คำศัพท์
skills                         ทักษะ
           Mechanical                 เครื่องกล         
touch                           สัมผัส
           surface                        พื้นผิว           
              Learning                     การเรียนรู้          

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

วันที่ 25 ตุลาคม 2562บันทึกการเรียน ครั้งที่ 12


บันทึกการเรียน ครั้งที่ 12
วันที่ 25 ตุลาคม 2562
สำหรับในการเรียนครั้งนี้อาจารย์ได้สอนเกี่ยวกับหลักการวางแผน(plan)ในการสอนทำมายแมพ ที่เราสามารถนำไปสอนใช้กับเด็กได้
วิธีการทำมีดังนี้
1. เริ่มวาดที่จุดกึ่งกลางของกระดาษก่อน เพราะว่าการริมต้นที่จุดกึ่งกลาง(Midpoint)จะทำให้ สมองของเราเป็นอิสระ พร้อมที่แตกหน่อ ความคิดออกไปยังทุกทิศทางเรียงตามลำดับ ที่เราต้องการได้เลย
2. ใช้รูปภาพหรือวาดรูปประกอบ เพราะว่ารูปภาพมีความหมายนับล้าน คำและยังช่วยให้เราได้ใช้จินตนาการไป ในตัวอีกด้วย ภาพที่อยู่ตรงกึ่งกลางเรา ควรที่จะทำให้เด่นดูนำสนใจ จะช่วยทำ ให้เรามีจุดโฟกัส(Focal point)ที่แน่นอน
3. ใช้ปากกาหลากหลายสี มาเติมแต่ง (Mind Mapping) ของเรา สีจะทำให้สมอง(brain)ของเราได้ตื่นตัว สีสันจะทำ ให้ดูมีชีวิตชีวาน่อนมากยิ่งขึ้น แถมการนั่ง วาดภาพระบายสียังทำให้เราได้ฝึกความคิด สร้างสรรค์ไปในตัวอีกด้วย
 4. วาดกิ่งออกมาจากภาพตรงกลาง แล้วแตกกิ่งก้าน(Branches)สาขาออกมาตามที่สมองเรา จะคิดได้ ต้องให้เส้นเชื่อมต่อกัน เพราะว่า สมองของมนุษย์ทำงานแบบเชื่อมโยงเข้าหากันนะ
5.วาดเส้นกิ่งให้โค้งดีกว่าวาดแบบ เส้นตรงเพราะเส้นตรงมันดูน่าเบื่อ(boring)และไม่ น่าสนใจนั่นเอง
6. ใช้เพียงแค่คีย์เวิร์ดเท่านั้น

ภาพกิจกรรม








หลังจากทำมายแมพเสร็จเป็นที่เรียบร้องแล้วอาจารย์ก็ให้มานำเสนอสาระการเรียนรู้ของเด็กด้านประสบการณ์สำคัญ
ประเมินอาจารย์ อาจารย์เน้นให้ปฏิบัติจริงซึ่งป็นสิ่งที่ดีทำให้เราคิดเองทำเองวางแผนและลงมือปฏิบัติ
 ประเมินเพื่อน เพื่อนให้ความร่วมทำกิจกรรมอย่างเต็มที่
ประเมินตัวเอง ตั้งใจเรียนรู้สิ่งที่อาจารย์สอนทุกอย่าง

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562บันทึกการเรียน ครั้งที่ 13


บันทึกการเรียน ครั้งที่ 13


สำหรับวันนี้ได้ไปทำกิจกรรมที่ศูนย์เสือใหญ่ครั้งที่ 2 สำหรับกลุ่มดิฉันมีหน้าพาเด็กทำกิจกรรมจัดเด็กควบคุม(Control)เด็กระหว่างทำกิจกรรม(activities)ประสบการณ์  (experience)ในครั้งนี้ทำให้รู้สึกคุ้นเคยกับเด็กไม่เกรงเหมือนไปครั้งแรกเด็กๆที่นี่น่ารักมากให้ความร่วมมือ(cooperation)ในการทำกิจกรรม
ฐานกิจกรรมจะมี 3 ฐานด้วนกัน

                        ฐานสถานีเติมลม(Base station)





                        ฐานแสง(Light base)

                       ฐานแรงตึงผิว(Base surface tension)


หลังเสร็จกิจกรรมก็มีกิจกรรมสุดท้ายที่ให้น้องๆทำคือการทำกังหันลม(wind turbine)โดยจะให้เด็กๆระบายสีหลังจากนั้นก็พบประกอบรูปร่าง(shape)กังหันลมโดยมีพี่ๆนักศึกษาช่วย




ประเมินอาจารย์ อาจารย์จัดสรรหาสถานที่ให้เราได้ลงมือปฏิบัติจริงซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวนักศึกษา
ประเมินเพื่อน เพื่อนเตรียมอุปกรณ์ไปทำกิจกรรมให้น้องๆอย่างเต็มที่
ประเมินตัวเอง ตั้งใจทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่


วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2562

วันที่ 18 เดือน ตุลาคม 2562บันทึกการเรียนครั้งที่ 11


บันทึกการเรียนครั้งที่ 11
วันได้ไปทำกิจกรรมการทดลอง(Trial)ให้น้องที่ศูนย์เสือใหญ่หลัง มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม จะมีเด็กตั้งแต่ ชั้นเตรียมอนุบาลคือน้องเล็กที่สุดไปจนถึง อนุบาล 3 ซึ่งเด็กที่นี่น่ารักมากให้ความสนใจ(interest)และมีความใส่ใจในการทำลองแต่ละฐาน ซึ่งฐานการทดลองของเราก็จะมี 3ฐาน ด้วยกัน
1.      ฐานการละลาย(Melting)
2.      ฐาน เงาตุ๊กตาจะทอดยาวเมื่อไหร่
3.      ฐาน ฟองสบู่
หลังจากพาน้องๆทำกิจกรรมเสร็จแล้วก็จะมีอีก 1 กิจกรรมที่ให้น้องๆได้ทำพร้อมกันก็คือการระบายสี(paint)ของปากโดยทำจากกระดาษน้องสามารถนำไปให้คุณพ่อคุณแม่ดูได้ที่บ้าน
            สำหรับการไปทำกิจกรรมในครั้งนี้อาจจะทำออกมาไม่ดีแต่ก็เป็นประสบการณ์(experience)ที่ดีที่เราสมรถนำไปปรับปรุง(Update)ในการทำกิจกรรมครั้งต่อไปนี้ดีขึ้น
ประเมินอาจารย์ อาจารย์พาไปทำกิจกรรมที่มีประโยชน์สามารถนำไปใช้ได้จริง
ประเมินเพื่อน เพื่อนตั้งใจพาเด็กๆทำกิจกรรม
ประเมินตนเอง ตั้งใจเตรียมอุปกรณ์ทำการทำลองมาทำกิจกรรมให้เด็กๆ

                                                            ภาพกิจกรรม



ระบายสี

ผลงานของน้องๆ


น้องออกกำลังกายก่อนเข้าฐานกิจกรรม

น้องๆนั่งรอเข้าแถว


                                                                เข้าแถวเคารพธงชาติ


ประเมินอาจารย์ อาจารย์ค่อยสังเกตการทำกิจกรรมของนักศึกษาและช่วยสอนวิธีการพูดกับเด็กด้วย
ประเมินเพื่อน เพื่อนแต่ละกลุ่มมีการเตรียมความพร้อมในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดีอาจจะมีข้อผิดพลาดบ้าง
ประเมินตนเอง ตั้งใจทำกิจกรรมฐานตัวเองอย่างเต็มที่การไปทำกิจกรรมในครั้งนี้ทำให้ได้ประสบการณ์ในการสอนเด็กมาอย่างมากและส่วนที่บกพร่องก็จะนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ

วันที่ 11 เดือน ตุลาคม 2562 บันทึกการเรียน ครั้ง ที่ 10



บันทึกการเรียน ครั้ง ที่ 10

สำหรับการเรียนในวันนี้อาจารย์จะพาไปศูนย์เด็กเล็กซอยเสือใหญ่ซึ่งทางศูนย์ไม่สะดวกอาจารย์เลยสอนการพับกระดาษ A 4


ซึ่งจะแบ่งกระดาษออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก
ให้พับครึ่งหนึ่งของกระดาษ(paper)อีกทีแต่ส่วนด้านหน้าต้องยาวกว่าส่วนด้านหลัง(back)เพื่อสะดวกในการเปิดเข้าไปดูภาพด้านใน เมื่อพับเสร็จแล้วก็ให้วาดรูป(draw)อะไรก็ได้โดยจะต้องอยู่ตำแหน่ง(Position)เดียวกันและต้องวาดภาพให้มีความแตกต่างกันเล็กน้อย

ดังภาพ

ส่วนที่ 2อาจารย์ให้พับกระดาษอีกครึ่งหนึ่งจากนั้นก็วาดภาพด้านหน้าและด้านหลัง
ดังภาพ

ส่วนที่ 3 ให้ประดิษฐ์ของเล่นอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์(science)จากนั้นก็ให้มาอธิบายหน้าชั้นเรียน


เมื่อเสร็จกิจกรรมนี้อาจารย์ก็ให้สาธิต(demonstration)การทดลองแบบจำลองให้ดูว่าจะไปพูดกับเด็กยังไงวิธีการทำจะทำอะไรเป็นลำดับแรก


ประเมินอาจารย์ อาจารย์พาทำกิจกรรมที่มีประโยชน์สามารถนำไปใช้ได้จริง
ประเมินเพื่อน เพื่อนตั้งใจเรียน
ประเมินตนเอง ตั้งใจเรียนและเตรียมอุปกรณ์มาทำการทำลอง


วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2562

บทความ



บทความ
การทดลองทางวิทยาศาสตร์ช่วยสร้างลักษณะนิสัยการเรียนรู้อย่างมีกระบวนการ ส่งเสริมให้เด็กคิดอย่างมีระบบ และศึกษาสิ่งต่างๆด้วยการนำเอาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้เป็นสิ่งกระตุ้นพัฒนาการเรียนรู้ และส่งเสริมพัฒนาการทุกด้านของเด็กรวมถึงสามารถพัฒนาเด็กปฐมวัยในด้านต่างๆ ดังนี้
ส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาความสามารถในการค้นคว้า สืบสอบสิ่งต่างๆ
ส่งเสริมให้เด็กได้รับการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง เช่น ทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนกประเภท ทักษะการสื่อสาร ทักษะการลงความเห็น ทักษะการวัด ทักษะการสื่อสาร เป็นต้น
ช่วยตอบสนองต่อธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย โดยเฉพาะความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก เจตคติต่อวิทยา ศาสตร์ และการเรียนรู้ด้วยการค้นพบ
ช่วยให้เด็กเข้าใจวิธีการทำงานอย่างนักวิทยาศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กับชีวิตประจำวัน และการสืบค้นของตัวเด็ก
ส่งเสริมให้เด็กมีความกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็นตลอดจนการใช้คำถาม “อะไร” “ทำไม” และ “อย่างไร”
ส่งเสริมให้เด็กพัฒนาความคิดอย่างมีเหตุผล อย่างมีระบบตามวิธีการทางวิทยาศาสตร์
ส่งเสริมให้เด็กมีความรู้เกี่ยวกับตนเอง และสิ่งต่างๆรอบตัวมากขึ้น
ส่งเสริมให้เด็กมีทักษะในการแก้ปัญหา
ส่งเสริมให้เด็กมีความรับผิดชอบในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ส่งเสริมให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์
เป็นการเตรียมความพร้อมในการเรียนวิทยาศาสตร์ในระดับประถมศึกษา
ส่งเสริมให้เด็กเป็นคนกล้าพูด กล้าทำ กล้าแสดงความคิดเห็น
ส่งเสริมให้เด็กเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคง ไม่เชื่อต่อคำบอกเล่าของคนอื่นง่ายๆ จนกว่าจะพิสูจน์ให้เห็นจริง
ส่งเสริมให้เด็กเป็นคนมีจิตใจกว้างขวาง ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น
ส่งเสริมให้เด็กสามารถทำงานเป็นกลุ่มได้ รู้จักการเป็นผู้นำ ผู้ตาม รู้จักรอคอย แบ่งปันสิ่งของเครื่องใช้ ตลอดจนการช่วยเหลือทำงานร่วมกัน
ส่งเสริมให้เด็กลดความกลัวต่อสิ่งต่างๆ เช่น กลัวความมืด กลัวเสียงฟ้าร้อง เป็นต้น
ส่งเสริมให้เด็กมีทักษะในการใช้อวัยวะต่างๆของร่างกายในการทำงาน อีกทั้งทักษะในการใช้เครื่องมือในการทำงานต่างๆอีกด้วย
ครูจัดกิจกรรมให้ลูกทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนอย่างไร?

การจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย สามารถบูรณาการกิจกรรมทดลองไว้ในกิจกรรมตามตารางกิจกรรมประจำวันสำหรับเด็กปฐมวัย เช่น เสริมประสบการณ์หรือกิจกรรมในวงกลม กิจกรรมสร้างสรรค์ เนื้อหาที่นำมาทด ลองจะยึดหน่วยหรือหัวเรื่องที่เด็กเรียนรู้เป็นหลัก เช่น
การเรียนรู้ หน่วยน้ำ ครูจัดกิจกรรมการทดลองวิธีการกรองน้ำให้สะอาด เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้มโนทัศน์เกี่ยวกับเรื่องวิธีการทำให้น้ำสะอาด จากการทดลองวิธีการกรองน้ำ ครูอาจจัดวัสดุอุปกรณ์ต่างๆเพื่อให้เด็กได้เลือกและค้นหาวิธีการที่เหมาะสมในการกรองน้ำ
ส่วนการเรียนรู้ หน่วยผลไม้ อาจจัดกิจกรรมทดลองเพื่อพิสูจน์เกี่ยวกับส่วนประกอบของผลไม้ว่า ผลไม้แต่ละชนิดมีส่วน ประกอบเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร โดยครูแบ่งกลุ่มเพื่อให้เด็กทดลองเป็นกลุ่ม และมีการเปรียบเทียบผลการพิสูจน์ของแต่ละกลุ่มได้ เช่น เงาะจะมีส่วนประกอบคือ เปลือก เนื้อ และมีเมล็ดเดียว สับปะรดประกอบด้วยเปลือก และเนื้อ ไม่มีเมล็ดแต่มีแกนอยู่ส่วนตรงกลาง แตงโมประกอบด้วยเปลือก เนื้อสีแดง และมีเมล็ดหลายเมล็ด
สำหรับการบูรณาการการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในกิจกรรมสร้างสรรค์สามารถจัดให้กับเด็กได้ เช่น การเรียนรู้ หน่วยดอก ไม้ สามารถจัดกิจกรรมการทดลองสีจากดอกไม้ในการสร้างสรรค์งานทางศิลปะได้ เช่น ใช้สีแดงจากดอกกุหลาบ สีเหลืองจากดอกดาวเรือง สีน้ำเงินจากดอกอัญชัน เป็นต้น นอกจากครูจะบูรณาการกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ไว้ในกิจ กรรมประจำวันแล้ว ยังสามารถจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ไว้เป็นการเฉพาะและนำไปจัดเพื่อเป็นกิจกรรมเสริมในช่วงเวลาอื่นๆได้ เช่น จัดไว้ในมุมวิทยาศาสตร์ จัดในช่วงตอนพักกลางวันหรือช่วงก่อนเด็กกลับบ้าน ฯลฯ
พ่อแม่ ผู้ปกครองจะจัดกิจกรรมให้ลูกทดลองทางวิทยาศาสตร์อย่างไร?

พ่อแม่หรือผู้ปกครองเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็ก เพราะการเรียนรู้ครั้งแรกของเด็กเกิดที่บ้าน จากการที่เด็กมีความสัมพันธ์กับสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้ที่เป็นบิดามารดา ความสัมพันธ์และพฤติ กรรมดังกล่าวจะมีผลต่อพัฒนาการของเด็ก จากผลงานการวิจัยของชุลีพร พิศุทธิ์ศุภฤทธิ์ ที่ศึกษาพบว่า เด็กปฐมวัยมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ด้านการสังเกตสูงขึ้นหลังจากที่บิดามารดา ชวนคุย ชวนร้อง ชวนเล่น สอดคล้องกับงานวิจัยของเสาวคนธ์ สาเอี่ยม ที่ศึกษาพบว่า เด็กปฐมวัยมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ด้านการจำแนกสูงขึ้นหลังจากที่พ่อแม่จัดกิจกรรมการเล่นสร้างสรรค์ให้กับลูก ดังนั้น บทบาทของบิดามารดามีความสำคัญต่อการพัฒนาเด็กปฐมวัยในด้านต่าง ๆ รวมทั้งทักษะพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ สำหรับแนวทางของผู้ปกครองในการที่จะส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางวิทยา ศาสตร์ให้กับลูกที่บ้านควรมีขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1 พ่อแม่ควรสังเกตความสนใจของลูกว่า ลูกมีความสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวในเรื่องใดบ้าง ซึ่งสามารถพบได้จากการคำพูด การสนทนาในชีวิตประจำวันของลูกกับพ่อแม่
ขั้นที่ 2 สร้างเสริมประสบการณ์ในเรื่องที่ลูกสนใจ โดยบูรณาการทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องนั้นๆ เช่น ถ้าเด็กสนใจเรื่องการเจริญเติบโตของต้นไม้ที่ปลูกไว้ที่บ้าน เด็กอาจจะถามว่าทำไมต้นไม้ที่ปลูกในกระถางกับต้นไม้ที่ปลูกลงดินมีการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน พ่อแม่ควรใช้การสนทนาและใช้คำถามกระตุ้นให้เด็กคิดว่ามีสาเหตุมาจากอะไร เด็กอาจจะสืบค้นโดยการถามบุคคลต่างๆ หรืออาจจะไปสังเกตลักษณะของดินในกระถางและดินที่ใช้ปลูกต้นไม้ตามธรรมชาติว่ามีความเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร นอกจากนี้พ่อแม่อาจจะช่วยกระตุ้นให้เด็กคิดว่าการเจริญเติบโตของต้นไม้ต่าง ๆ อาจมาจากการดูและรักษาและบำรุง เช่น การรดน้ำต้นไม้ การให้ปุ๋ย ซึ่งในขั้นนี้พ่อแม่ควรจัดประสบการณ์หรือสิ่งแวด ล้อมให้เด็กได้รับประสบการณ์ที่กว้างขวางขึ้น
ขั้นที่ 3 พ่อแม่ควรสรุปความรู้หรือความคิดรวบยอดหลังจากที่เด็กได้ทดลองหรือสืบค้นข้อมูลเพียงพอแล้ว เช่น การอธิบายให้ลูกเข้าใจเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของพืชจากองค์ประกอบของการดูแลที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ การอธิบายหลักการต่างๆควรใช้ภาษาที่เหมาะสมกับวัยของเด็กด้วย การจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ให้เด็กเรียนรู้ที่บ้านนั้น พ่อแม่ควรนำสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวันมาสอนเด็ก เช่น
การสอนการทดลองเรื่องการระเหยของน้ำและการเกิดฝนจากการปรุงอาหาร
การทดลองเกี่ยวกับพลังงานความร้อนจากการรีดผ้า การตากผ้า
การทดลองเรื่องรุ้งกินน้ำจากการซักผ้า
การทดลองการจม การลอยจากการถนอมอาหารด้วยการทำไข่เค็ม
การทดลองเรื่องอากาศต้องการที่อยู่จากการเป่าลูกโป่ง เพื่อใช้ตกแต่งสถานที่ในงานวันเกิดหรือวันปีใหม่ ฯลฯ
ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า การจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่พ่อแม่จัดให้กับลูกที่บ้านควรเป็นกิจกรรมบูรณาการด้วยการใช้สถานการณ์จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อใช้ในการเรียนรู้ให้กับเด็กได้รับการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ผู้ปกครองจึงควรรู้จักสังเกตพฤติกรรมของเด็ก เพื่อจะได้ตอบสนองต่อความต้องการในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยได้ 
เกร็ดความรู้เพื่อครู

ครูมีบทบาทสำคัญในการสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับเด็กโดยเฉพาะการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้รับการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ บทบาทสำคัญของครูปฐมวัยคือ การจัดกิจกรรมทดลองทางวิทยาศาสตร์ให้เด็กอย่างน้อย 1 การทดลอง ต่อ 1 หน่วยการเรียนรู้ และจัดหาสื่อวัสดุอุปกรณ์ที่นำมาใช้เพื่อการทดลองให้พร้อม อีกทั้งยังต้องจัดมุมประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กคิดและทดลองตามหัวเรื่องที่เรียน นอกจากนี้ การใช้คำถามของครูเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กได้พัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ได้เช่นเดียวกัน


บันทึกการเรียน ครั้งที่ 15

บันทึกการเรียน ครั้งที่ 15 สำหรับการเรียนการสอนในวันนี้อาจารย์ได้ให้นำเสนอของเล่นเป็นรายกลุ่มซึ่งได้แก่ กลุ่มของเล่น เรื่องน้ำ ...